Dora And The Lost City Of Gold | ดอร่าและเมืองทองคำที่สาบสูญ (2019)
ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงปีที่ผ่านมานี้ หนึ่งในข่าวคราววงการการ์ตูนที่เราได้ยินกันบ่อยที่สุด ก็คือข่าวการนำการ์ตูนฮิตในดวงใจหลายเรื่อง มาทำเป็นภาพยนตร์คนแสดง หรือ ไลฟ์-แอคชัน ทั้งเพื่อสานฝันของนักอ่านเองที่อยากจะเห็นเหล่าตัวละครที่รักออกมามีชีวิตจริงๆ ดูหนังฟรีออนไลน์ และเพื่อให้คนทั่วไปสามารถสัมผัสความสนุกของการ์ตูนเหล่านี้ได้มากยิ่งขึ้น เฉพาะในปีนี้ก็มีมากถึง 19ทว่า ท่ามกลางภาพยนตร์จากการ์ตูนหลายเรื่องที่ออกมาแป้กจนได้ยินเสียงแอร์ร่ำร้อง ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ทำออกมาได้ดี อย่างเรื่อง Dora And The Lost City Of Gold ดอร่าและเมืองทองคำที่สาบสูญ ลอกเลยสนุกกว่าที่คิดเยอะ
Dora And The Lost City Of Gold ดอร่าและเมืองทองคำที่สาบสูญ เป็นภาพยนตร์แนว ผจญภัย Adventure จากแอนิเมชั่นซีรีส์ของนิคเคลโลเดียน ช่องยอดฮิตของคุณหนูๆ ในทวีปแถบอเมริกา Dora the Explorer เป็นเรื่องราวของสาวน้อยดอร่าที่รักการผจญภัยไปกับเพื่อนลิงจ๋อแสนรู้ โดยระหว่างการผจญภัย ซีรีส์ก็จะแวะสอนน้องๆ หนูๆ ให้รู้จักคำศัพท์ภาษาสเปนผ่านหน้าจอโทรทัศน์ (ด้วยมุมกล้องที่ให้ดอร่าหันมาหาคนดูแบบตรงๆ เหมือนเธอกำลังพูดอยู่กับคนดูนั่นเอง) โดยแนวคิดที่ซีรีส์นี้มอบให้คือการให้น้องๆหนูๆ รู้จักแก้ไขสถานการณ์ มีไหวพริบ กล้าแสดงออก เป็นต้น Dora and the Lost City of Gold คือหนังที่เหมาะสำหรับผู้ชมทั้งครอบครัวจริงๆ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อช่วงต้นเรื่องสมัยที่ดอร่ายังเป็นเด็ก หนังเลือกวิธีการแบบเดียวกับในซีรีส์
นั่นคือให้ตัวละครดอร่าหันมาคุยกับผู้ชม และทำให้ตัวละครพ่อแม่อย่างเอเลนา (อีวา ลองโกเรีย) แม่ผู้เป็นนักสัตววิทยาและโคล (ไมเคิล พีน่า) พ่อผู้เป็นนักโบราณคดี ถึงกับทำหน้างงว่าดอร่ากำลังทำอะไรอยู่ (ซึ่งเป็นการยั่วล้อกับเวอร์ชั่นการ์ตูน ว่ามันเป็นการนำเสนอที่พิลึก เมื่อมาอยู่ในหนังคนแสดง) แถมเอเลนายังคุยกับพ่ออีกว่า “เดี๋ยวโตขึ้น ก็คงหายเอง” เพื่อเป็นการบอกคนดูในทีว่า เมื่อดอร่ากลายเป็นตัวละครวัยรุ่น หนังก็จะไม่ใช้เทคนิคการสื่อสารกับคนดูแบบนี้แล้วเพราะมันประหลาดเหลือเกิน ตัดสลับเหตุการณ์อีก 10 ปีผ่านไป เมื่อดอร่าเติบโตเป็นวัยรุ่น แม้เธอจะยังคงรักการผจญภัยในป่า แต่ด้วยอายุของเธอนั้น ดอร่าไม่มี “สังคมเพื่อน” ที่เป็นมนุษย์สักเท่าไหร่
พ่อและแม่ของเธอจึงส่งดอร่าไปเข้าโรงเรียนมัธยมและให้เธอไปพักพิงกับคุณยาย (เอเดรียนา บาร์ราซา) และดิเอโก้ (เจฟฟ์ วอห์ลเบิร์ก) ลูกพี่ลูกน้องของเธอ ซึ่งดิเอโก้ให้นิยามโรงเรียนว่า “เป็นสถานที่เอาตัวรอดทางสังคม” ในอีกรูปแบบหนึ่ง มีความน่ากลัวไม่ต่างอะไรจากป่าเช่นกัน แน่นอนว่าการปรับตัวเข้ากับสังคมโรงเรียนไฮสคูลนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสักนิดเดียว แต่ดอร่าเป็นคนที่ซื่อสัตย์กับตัวเองมาก เป็นตัวของตัวเองจนกลายเป็นเป้าสายตาของนักเรียนคนอื่นๆ แต่เมื่อ Dora and the Lost City of Gold ไม่ใช่หนังแบบเดียวกับ Mean Girls (2004) ที่จะมาวิพากย์สังคมไฮสคูลอเมริกัน หนังจึงย้ายน้ำหนักไปที่การผจญภัยค้นหาขุมทรัพย์กับเมืองพาราพาต้าที่สาบสูญแทน โดยระหว่างนั้นเอง ความสนุกของเรื่องราวจึงยั่วล้อกับขนบหนังตามหาสมบัติ การวิพากย์พฤติกรรมของตัวละครที่ดูแปลกประหลาดในหนังตระกูลนี้ (ซึ่งหนังก็จะจิกกัดตัวเองผ่านตัวละครผองเพื่อนของดอร่า) หรือการที่ตัวละครต้องเอาตัวรอดจากสถานการณ์ต่างๆ ในป่า ก็เป็นอรรถรสที่ทำให้ผู้ใหญ่และน้องๆ หนูๆ สนุกไปด้วยกันอย่างไร้พิษภัยใดๆ
หลัง ดูหนังฟรีออนไลน์HD จบเนี่ย..บอกเลยว่านี่เป็นหนังผจญภัยล่าขุมทรัพย์ที่กาว แต่เป็นกาวที่สนุกและเบาสมอง เรียกได้ว่าเน้นบันเทิงและโลกสดใสแถมยังขยี้ความเป็นการ์ตูนดอร่าออกมาได้โคตรจี้ คือขยี้แต่ต้นเรื่อง คือถ้าใครเคยดูการ์ตูนดอร่า และรู้จักเรื่องนี้ คุณจะได้เห็นแบบที่เห็นในการ์ตูน มาอยู่ในหนัง ไม่คิดว่าจะได้มาเห็นอะไรแบบนี้..ขำปวดโหนกแก้มมาก ถึงแม้บางช่วงมันจะมากจนแป๊กก็เหอะตัวนักแสดงดอร่า น้องค่อนข้างมีเสน่ห์ ตัวดึงจุดความสนใจ ให้เราหลงรักตัวละครดอร่า ความแก่น ร่าเริง พล็อตเรื่องอะไรเดาง่าย เดาไม่ยากเลยแม้กระทั่งตัวร้าย เอาจริงถึงแม้หนังจะขยี้ความเป็นการ์ตู๊นการ์ตูนดอร่าจัดเต็ม แต่กลับเป็นหนังผจญภัยปริศนาที่ดูสนุกเรื่องหนึ่งเลย โดยเฉพาะตอนท้าย แต่ก็นั่นแหละยังคงมีความกาวและมุขการ์ตูนเล็กน้อย ถ้าไม่ติดว่ามันออกโทนหนังเด็กเกินไปอ่ะนะคิดว่าทางผู้สร้างคงตั้งใจแต่แรกว่า ให้หนังจากการ์ตูนเด็กเรื่องนี้ ถ้าจะทำเป็นหนัง มันก็ควรไปให้สุดในทางของมันเลย ไม่จำเป็นต้องเน้นสมจริงสมจังอะไรมาก